พัฒนาการด้านการเงิน นับวันยิ่งมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อให้เกิดความสะดวก
สบาย รวดเร็ว กับผู้บริโภคและการทำงานในส่วนหลังบ้านมากที่สุด
ซึ่งในวันนี้บริการทางด้านการเงินได้มีวิวัฒนาการขึ้นจากเมื่อก่อนมากมาย
และมีการผูกเอาระบบออนไลน์
หรืออินเทอร์เน็ตเข้าไปรองรับการใช้งานของผู้บริโภคมากขึ้นนอกจากธนาคารต่างๆ
จะมีการนำเทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ตเข้ามาช่วยในการบริการ เพื่อให้สะดวก รวดเร็ว
และรองรับการใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว แม้แต่บัตรพลาสติก
ที่แน่นอนว่าต้องเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกรรมทางการเงินของทุกๆ คนในปัจจุบัน
ก็ได้มีการพัฒนา เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน โดยได้ทำให้มีความปลอดภัย
และนำไปใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
บัตรพลาสติกติดชิปการติดชิป
บนบัตรพลาสติก
ถือเป็นพัฒนาการขั้นหนึ่งที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการมากขึ้น
อีกทั้งยังทำให้ตัวบัตรพลาสติกที่ใช้กันอยู่นี้มีความฉลาด
และเก็บข้อมูลได้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งการนำชิปมาติดบนบัตรพลาสติก
แล้วทำให้มีคนรู้จัก และเข้าใจเทคโนโลยีของบัตรพลาสติกที่เปลี่ยนไปได้อย่างดีที่สุด
ก็คือ การนำไปใช้ในบัตรประชาชน หรือที่เรียกกันว่า บัตรสมาร์ทการ์ด
นั่นเองนอกจากการนำชิปไปติดบนบัตรพลาสติก
เพื่อเก็บข้อมูลสำคัญส่วนตัวของแต่ละคนแล้ว
เทคโนโลยีบนชิปยังสามารถนำไปใช้ในด้านการชำระเงินได้ด้วย
โดยชิปจะทำหน้าที่คล้ายเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วบนบัตร หน่วยความจำ
และความสามารถในการประมวลผลของชิปจะเปลี่ยนไปตามรูปแบบการชำระเงินด้วยบัตร
ซึ่งชิปจะสามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าแถบแม่เหล็กที่บัตรชำระเงินทั่วไปใช้อยู่ในปัจจุบันถึง
80 เท่าเป็นอย่างน้อยขณะนี้ธนาคารต่าง ๆ เริ่มทยอยเปลี่ยนระบบบัตรชำระเงิน
จากแถบแม่เหล็กแบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
เป็นบัตรติดชิปที่ใช้มาตรฐานของอีเอ็มวีเพื่อแก้ปัญหาการลักลอบปลอมแปลงบัตรเครดิตที่กำลังมีเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน
โดย อีเอ็มวีทำหน้าที่เป็นกลไกในการสร้างกรอบสำหรับผู้ผลิตบัตรติดชิปและเครื่อง
ที่รับบัตรชนิดนี้เพื่อให้บัตรสามารถนำไปใช้ได้ทั่วโลกอีเอ็มวี (EMV- Europay
International, MasterCard International and Visa International)
เป็นกลุ่มทำงานร่วมกันของผู้มีบทบาทสำคัญในธุรกิจชำระเงิน
ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเทคโนโลยีชิปไปใช้กับระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ
โดยได้ร่วมกันพัฒนาคุณสมบัติเฉพาะของบัตรที่ติดชิปและเครื่องรับบัตรที่จะมาใช้กับบัตรนี้ในการชำระเงินการใช้ระบบอีเอ็มวี
นอกจากจะทำให้บัตรติดชิปสามารถนำไปใช้ได้ทั่วโลกแล้ว
ยังช่วยลดปัญหาการปลอมแปลงบัตรเครดิตทั้งภายในประเทศ และ
ระหว่างประเทศได้อีกด้วยบัตรสมาร์ทการ์ดเป็นบัตรชำระเงินที่สามารถใช้งานได้
หลากหลายซึ่งจะช่วยอำนวยประโยชน์ให้แก่ผู้ถือบัตรเป็นอย่างมาก
และยังเป็นรูปแบบของบัตรชำระเงินที่ให้ความปลอดภัยสูงสุดในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังสามารถเป็นทั้งบัตรเดบิต บัตรเครดิต
บัตรสะสมแต้มคะแนนได้ในใบเดียวกันปัจจุบันบัตรสมาร์ทการ์ดจะมิได้เป็นเพียงบัตรชำระเงินเท่านั้น
แต่สามารถใช้เป็นบัตรสะสมแต้ม และมีคุณลักษณะเสริมอื่นๆ ด้วย เช่น
สะสมคะแนนของความบ่อยในการใช้บริการ
นำไปใช้ในสถานที่ที่เจ้าของบัตรได้ระบุไว้ในโปรโมชั่นเพื่อสะสมแต้มพิเศษในช่วงเวลานั้น
หรือเมื่อไปใช้บริการห้องพักโรงแรม
ก็จะได้พักห้องฟรีเมื่อสะสมคะแนนถึงจำนวนที่กำหนดโดยผู้ถือบัตรสมาร์ทการ์ดต่อไปไม่ต้องแสดงบัตร
‘ลูกค้าที่พักบ่อย’ กับพนักงานเช็กอินของโรงแรม เนื่องจากไมโครชิปเล็กๆ
ที่ติดอยู่ในบัตรสมาร์ทการ์ดนั้นสามารถบันทึกและแสดงข้อมูลล่าสุดของการใช้บริการของผู้ถือบัตร
ณ สถานให้บริการนั้นๆ ได้ทันทีนอกจากนั้น
บัตรสมาร์ทการ์ดยังสามารถใช้ยืนยันความเป็นเจ้าของบัตรที่แท้จริง
ขณะที่ใช้บัตรซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตเพื่อความปลอดภัย
และเพื่อให้สามารถทำธุรกรรมได้ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ตาม
โดยการชำระเงินผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยบัตรสมาร์ทการ์ดมีขึ้นครั้งแรกในปี 2540 นับ
ตั้งแต่นั้นมาบัตรสมาร์ทการ์ดก็ได้รับการพัฒนาและทดสอบเรื่อยมาเพื่อให้
สามารถใช้งานได้จริงในอนาคตบัตรสมาร์ทการ์ดสามารถทำหน้าที่เป็นทั้งบัตร เครดิต
บัตรเดบิตและบัตรสมาชิกต่างๆ ได้
ต่อไปผู้ถือบัตรจะสามารถจัดการทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องธุรกิจได้อย่างสะดวกสบายด้วยบัตรเพียงหนึ่งใบ
แม้จะอยู่ระหว่างเดินทางต่างประเทศก็ตาม
บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ทำให้มีการพัฒนาคิดค้น
สิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำรงชีวิตเป็นอันมาก
เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี
เทคโนโลยีทำให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน
สามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากขึ้น
เทคโนโลยีทำให้ระบบการผลิตสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมาก มีราคาถูกลง
สินค้าได้คุณภาพ เทคโนโลยีทำให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก
การเดินทางเชื่อมโยงถึงกันทำให้ประชากรในโลกติดต่อรับฟังข่าวสารกันได้ตลอดเวลา
เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก
บทบาทของการพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร็วขึ้นเมื่อมีการพัฒนาอุปกรณ์ทางด้านคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ
จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ใหม่
ซึ่งมีคอมพิวเตอร์เข้าไปเกี่ยวข้องให้เห็นอยู่ตลอดเวลา ในช่วง พ.ศ.2523 เป็นต้นมา
ความเจริญก้าวหน้าทางด้านคอมพิวเตอร์ และระบบสื่อสารข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว
การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อประมวลผลข้อมูลเป็นไปอย่างกว้างขวาง
มีการส่งถ่ายข้อมูลระหว่างกันเป็นจำนวนมาก เกิดการประยุกต์งานด้านต่าง ๆ เช่น
ระบบการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ การใช้โทรสาร (facsimile) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
(electronic mail) ชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ที่มีบทบาทเพิ่มขึ้น จากปี พ.ศ. 2528
กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดให้มีการเรียนคอมพิวเตอร์จากเดิมเป็นวิชาเลือก
แต่ในปัจจุบัน ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2542
กำหนดให้นักเรียนทุกคนต้องเรียน
เพื่อให้เยาวชนทุกคนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของเทคโนโลยีสารสนเทศ
และนำไปประยุกต์ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานการเงินและการพาณิชย์
สถาบันการเงินต่างๆ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบของเครื่องถอนเงินโดยอัตโนมัติ
หรือ ATMเพื่ออำนวยความสะดวกในการฝาก ถอนเงิน
และได้นำคอมพิวเตอร์ระบบออนไลน์และออฟไลน์เข้ามาช่วยในการทำงานประจำวันของธนาคาร
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการจัดการการเงิน
ระบบสารสนเทศทางการเงิน ( Financial information systems
)การออกแบบและพัฒนาระบบทางการเงินเพื่อทำการพยากรณ์แผนทาง
การเงินโดยอาศัยข้อมูลทั้งภายในและภายนอก
การจัดการด้านการเงินในการหาแหล่งเงินทุน-จัดสรรเงินทุน
และการควบคุมทางการเงินเพื่อติดตาม ตรวจสอบ
และประเมินความเหมาะสมในการดำเนินงานการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานการเงินและการพาณิชย์สถาบันการเงิน
เช่น ธนาคาร ได้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบของ ATM เพื่อ อำนวยความสะดวกในการฝาก
ถอน โอนเงิน ในส่วนของงานประจำของธนาคารต่างก็นำคอมพิวเตอร์ระบบออนไลน์
และออฟไลน์เข้ามาช่วยปฏิบัติงาน ทำให้การเชื่อมโยงข้อมูลธนาคารเป็นไปอย่างสะดวก
รวดเร็ว เชื่อมโยงกับสาขาอื่น หรือสำนักงานใหญ่ได้ระบบเอทีเอ็ม
ระบบเอทีเอ็ม
(Automatic Teller Machine : ATM) หรือ ระบบถอนเงิน
หรือฝากเงินของธนาคารโดยอัตโนมัติ
เป็นระบบที่อำนวยความสะดวกสบายอย่างมากให้แก่ผู้ใช้บริการธนาคาร
และเป็นตัวอย่างเทคโนโลยีระบบสารสนเทศที่ได้รับการนำมาใช้เป็นกลยุทธ์ในการ
แข่งขันทางธุรกิจ ในอดีตเมื่อเริ่มมีการใช้ระบบเอทีเอ็ม เครื่องแรกของโลก
หรือของประเทศไทย มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจอะไรเกิดขึ้น และขณะนั้นธุรกิจธนาคาร
ให้ทางเลือกในการบริการกันอย่างไรบ้าง
พ.ศ.2520
เป็นปีที่มีการใช้เอที เอ็มเครื่องแรกของโลก ธนาคารซิตี้ แบงค์ ในเมืองนิวยอร์ก
เริ่มให้บริการฝากและถอนเงินโดยอัตโนมัติแก่ลูกค้า ซึ่งสามารถให้บริการได้ตลอด 24
ชั่วโมง รวมวันเสาร์ อาทิตย์ด้วย ในขณะที่ธนาคารอื่น ๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ
บนถนนสายเดียวกันให้บริการลูกค้าในเวลาปกติเท่านั้น คือ เฉพาะจันทร์ถึงศุกร์ เวลา
8.00-14.00 น. หลังจากบ่ายสองโมงก็หมดโอกาสได้รับบริการ ฝากถอนเงินแล้ว
เมื่อวิเคราะห์มุมมองในการแข่งขันของธนาคาร ในการให้บริการลูกค้า กล่าวได้ว่า
ระบบเอทีเอ็มของธนาคารซิตี้แบงค์เป็นบริการใหม่ที่ทำให้ลูกค้าได้รับความ สะดวกสบาย
และคล่องตัว ได้ดึงดูดลูกค้าจากธนาคารอื่นมาเป็นลูกค้าของตัวเอง
และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดขึ้นมาเกือบสามเท่าตัว ในช่วงเวลาประมาณ 6 เดือน
ก่อนที่ธนาคารคู่แข่งจะไหวตัวทัน และหันมาให้บริการเอทีเอ็มบ้าง
ตู้ฝากถอนเงินในระบบเอทีเอ็ม
ประโยคภาษาอังกฤษที่ว่า "Who is the first gains the benefits." หรือ ใครที่มาก่อน
ทำก่อน ย่อมได้ผลกำไร ภาพของการนำเอาเทคโนโลยีเอทีเอ็มเข้ามาใช้ก่อนเป็นรายแรก
และสร้างความได้เปรียบเชิงธุรกิจเหนือคูแข่งเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
ในเมืองใหญ่ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นซิดนีย์ โตเกียว ปารีส และรวมทั้งกรุงเทพด้วย
กล่าวคือ ธนาคารในเมืองเหล่านั้นที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเอทีเอ็มได้ก่อน
และให้บริการที่เหนือกว่า ก็สามารถดึงส่วนแบ่งการตลาดได้สูงมากเหนือคู่แข่ง
เนื่องจากได้ใช้ระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์มาเป็นกลยุทธ์ในการแข่งขัน
ในแง่การปรับปรุงการบริการแก่ลูกค้า เช่น ปรากฏการณ์ที่ธนาคารไทยพาณิชย์
สามารถนำระบบคอมพิวเตอร์แบบเชื่อมตรงมาบริการการใช้เอทีเอ็ม
และประสบความสำเร็จได้ก่อน จึงมีโอกาสดึงส่วนแบ่งการตลาดได้สูง
เทคโนโลยี ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของระบบเอทีเอ็ม ก็คือ
ระบบคอมพิวเตอร์ที่รวบรวมข้อมูลบัญชีเงินฝากของลูกค้าธนาคารไว้ในฐานข้อมูล
กับเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูล ทำให้สามารถเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ออกไปทั่วเมือง
ทั่วประเทศ หรือทั่วโลกได้
ผู้ใช้บัตรเอทีเอ็มสามารถเบิกเงินจากธนาคารได้จากตู้เอทีเอ็มที่ติดตั้งอยู่
ในเกือบทุกหนแห่ง เช่น ในห้างสรรพสินค้า หรือ ตามมุมถนนทั่วไป
ทุกครั้งที่ลูกค้าใช้บัตรเอทีเอ็มจากตู้เอทีเอ็ม
จะมีการสื่อสารข้อมูลไปยังฐานข้อมูลกลางที่สำนักงานใหญ่ของธนาคาร
ซึ่งได้บรรจุข้อมูลยอดเงินฝากและการฝากการถอนเงินของลูกค้า
ฐานข้อมูลนี้จึงมีลักษณะสำคัญที่เรียกว่าเป็นฐานข้อมูลกลาง ในความหมายที่ว่า
ลูกค้ามีบัญชีเงินฝากในธนาคารแห่งนั้น ๆ
จะมีข้อมูลอยู่ที่ฐานข้อมูลกลางเพียงชุดเดียว
และด้วยระบบการสื่อสารข้อมูลในลักษณะเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทำให้เข้าถึง
ข้อมูลได้จากระยะไกล
นอกจากนี้คอมพิวเตอร์ยังช่วยจัดการประมวลผลรายการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เช่น การฝาก
การโอน และการถอน ที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
สารสนเทศเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และมีค่า
ต่อการตัดสินใจเพราะเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มพูนความรู้ทำให้สามารถคาดการณ์สิ่งต่าง ๆ
ในอนาคตได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น
และช่วยลดความไม่แน่นอนให้แก่ผู้ที่ทำการตัดสินใจโดยทำให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สารสนเทศจะมีประโยชน์หรือมีค่าต่อผู้ใช้มากน้อยเพียงใดนั้นจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของสารสนเทศนั้น
ๆ สารสนเทศที่มีคุณภาพควรมีลักษณะที่สำคัญ ๆ มีดังนี้
1.เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ
2.ถูกต้องเชื่อถือได้
3.สมบูรณ์ครบถ้วน
4.ทันเวลา
5.แสดงเป็นจำนวนได้
6.ตรวจสอบความถูกต้องได้
7.สามารถเข้าใจได้
8.สามารถเปรียบเทียบกันได้
ระบบสารสนเทศด้านการเงิน (Financial Information
System) จะเกี่ยวกับสภาพคล่อง (Liquidity) ในการดำเนินงาน
เกี่ยวข้องกับการจัดการเงินสดหมุนเวียน
ถ้าธุรกิจขาดเงินทุนอาจก่อให้เกิดปัญหาขึ้นทั้งโดยตรงและอ้อม
โดยที่การจัดการทางการเงินจะมีหน้าที่สำคัญ 3 ประการ ดังนี้
1.
การพยากรณ์ (Forecast) คือการศึกษาวิเคราะห์ การคาดการณ์ การกำหนดทางเลือก
และการวางแผนทางด้านการเงินของธุรกิจ
เพื่อใช้ทรัพยากรทางการเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด
โดยนักการเงินสามารถใช้หลักการทางสถิติและแบบจำลองทางคณิตศาสตร์มาประยุกต์
การพยากรณ์ทางการเงินจะอาศัยข้อมูลทั้งภายในและภายนอกองค์การ
ตลอดจนประสบการณ์ของผู้บริหารในการตัดสินใจ
2. การจัดการด้านการเงิน
(Financial Management) คือการบริหารเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น
รายรับและรายจ่าย การหาแหล่งเงินทุนจากภายนอก เพื่อที่จะเพิ่มทุนขององค์การ
โดยวิธีทางการเงิน เช่น การกู้ยืม การออกหุ้น หรือตราสารทางการเงิน
3. การควบคุมทางการเงิน (Financial Control) เป็นการติดตามผล ตรวจสอบ
และประเมินความเหมาะสมในการดำเนินงานว่าเป็นไปตามแผนที่กำหนดหรือไม่
ตลอดจนวางแนวทางแก้ไขหรือปรับปรุงให้การดำเนินงานทางการเงินของธุรกิจมีประสิทธิภาพ
โดยที่การตรวจสอบและการควบคุมทางการเงินของธุรกิจจะจำแนกได้ 2 ประเภท
คือ3.1 การควบคุมภายใน (Internal
Control)
3.2 การควบคุมภายนอก (Extern สารสนเทศ
(information)
คือทรัพยากรที่มีความสำคัญยิ่งขององค์กรไม่แพ้ทรัพยากรบุคคลหรือสินทรัพย์อื่นๆขององค์กรองค์กรที่มีระบบการจัดเก็บจัดการ
และนำเสนอสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพย่อมทำให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
ทำให้ได้เปรียบคู่แข่งทางธุรกิจรวมทั้งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจได้ดีกว่าในอดีต
สารสนเทศทางการบัญชีเป็นงานที่ต้องทำด้วยมือทั้งหมด
ทำให้การนำสารสนเทศทางการบัญชีมาใช้ทำได้อย่างล่าช้าและอาจไม่ทันการในเชิงธุรกิจแต่ในปัจจุบัน
ด้วยความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่นำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการประมวลผล
ระบบสารสนเทศทางการบัญชีก็พัฒนามาสู่ยุคของระบบสารสนเทศทางการบัญชีที่ใช้คอมพิวเตอร์ด้วยเช่นกัน
ระบบนี้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ใช้สารสนเทศได้มากขึ้นแต่ในขณะเดียวกันก็มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ดังนั้นผู้ที่ทำงานด้านการบัญชีในยุคนี้จึงควรมีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้กับงานบัญชีเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ